The Development of Online Instruction Thai Dramatic Arts Practicing Behave Skill using Flip Classroom in Grade 7 at Princess Sirindhorn’s College School

Abstract

The objective of this research were to 1) develop online Instruction Thai Dramatic Arts to practicing behave skill using Flip Classroom form in grade 7 at Princess Sirindhorn’s College school 2) evaluate quality about content and technique. 3) Find efficiency online Instruction. To compare the learning achievement before and after studied.4) To study the satisfaction of student with their Princess Sirindhorn’s College school. The sample group used in this research are grade 7 year of education 2019 was 30 people from a simple random selection method. The research used online Instruction Thai Dramatic Arts to practicing behave skill using Flip Classroom. Used achievement test and evaluate quality test. Then obtained data were analyzed by using mean, standard deviation, and t-test Dependent. The result of the research showed that online 1) teaching materials Thai Dramatic Arts to practicing behave skill using Flip Classroom have good measure (=4.92 S.D.=0.23).2) The efficiency of material has valuable 81.55/85.33 which was higher than the specified 80/80.3) The achievement of post – test (= 25.60, S.D.= 1.94) higher than pre – test (=24.10, S.D.= 1.68) that significance at .05 and 4) evaluate quality of student with website that help teaching Thai Dramatic Arts to practicing behave skill by using Flip Classroom teach were in highest level.

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาสื่อการสอนออนไลน์ วิชานาฏศิลป์เพื่อฝึกทักษะปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบ ห้องเรียนกลับด้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย 2) หาประสิทธิภาพของสื่อการสอนออนไลน์ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ บทเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ได้จากวิธีการเลือกแบบ สุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) สื่อการสอนออนไลน์ วิชานาฏศิลปเพื่อฝึกทักษะปฏิบัติโดยใช้รูปแบบ ห้องเรียนกลับด้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test Dependent ผลการวิจัยพบว่า 1) สื่อการสอน ออนไลน์วิชานาฏศิลป์เพื่อฝึกทักษะปฏิบัติ โดยใช้รูปแบบห้องเรียนกลับด้าน มีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก (􀝔􀒧=4.92 S.D.=0.23) 2) ประสิทธิภาพของสื่อการสอนมีค่าเท่ากับ 81.55/85.55 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนหลังเรียน (􀝔􀒧= 25.66, S.D.= 1.86) สูงกว่า ก่อนเรียน (􀝔􀒧= 24.10, S.D.= 1.68) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการสอนที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับดีมาก