Study of safe driving behavior for truck vehicle logistic business

Abstract

Research on the independent study of safe driving behavior for truck vehicles logistics business focused on the evaluation of truck driver behavior using the Driver Risk Index (DRI) program and questionnaire. Data collected from a group of sample of truck drivers was analyzed by using statistics: Hypothesis testing, t-test, and One-Way ANOVA analysis. The study results are summarized as follows: 1) Most truck drivers have knowledge of traffic laws. 2) Most truck drivers do not have any accident after being trained by the DRI program. 3) The driver has well behavior to observe any potential hazard and check the surroundings while driving which can prevent accidents. 4) Personal factors in terms of gender, age, work experience and truck driving experience does not affect the risk level of the situation while the driver's education level affects this risk level 5) Different knowledge about traffic laws does not affect the level of risk from situations and driving habits. (In terms of confrontation, excitement, anxious, fatigue, etc.) And 6) The truck drivers who attended the training were satisfied with the DRI program at a very good level. The gender, age, work experience and truck driving experience had no effect on the satisfaction level while the age and level of education affects the satisfaction of the training program.

งานวิจัยเรื่องการศึกษาพฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยสำหรับรถขนส่งธุรกิจโลจิสติกส์ ใช้วิธีการประเมินผู้ขับขี่ด้วย โปรแกรมประเมินพฤติกรรมการขับขี่ (Driver Risk Index : DRI) และแบบสอบถาม โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้ขับ รถบรรทุก (รับส่งพนักงาน) นำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์โดยใช้สถิติ การทดสอบสมมติฐาน การทดสอบที (t-test) และ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ผลการศึกษาสามารถสรุปได้ดังนี้ 1) ผู้ขับรถบรรทุกส่วนใหญ่มี ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร 2) ผู้ขับรถบรรทุกที่ได้รับการอบรมจากโปรแกรม DRI ส่วนใหญ่ไม่เกิดอุบัติเหตุจากการขับ รถบรรทุกอีก 3) ผู้ขับรถมีพฤติกรรมในการเฝ้าระวังอันตรายและตรวจสอบสิ่งรอบข้างขณะขับขี่ได้ดี ซึ่งป้องกันอุบัติเหตุที่ อาจจะเกิดขึ้นได้ 4) ปัจจัยส่วนบุคคลในเรื่องของเพศ อายุ อายุงาน และประสบการณ์ในการขับรถบรรทุก ไม่มีผลต่อระดับ ความเสี่ยงจากสถานการณ์ ในขณะที่ระดับการศึกษาของผู้ขับรถมีผลต่อระดับความเสี่ยงนี้ 5) ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร ที่แตกต่างกันไม่มีผลต่อระดับความเสี่ยงจากสถานการณ์และพฤติกรรมการขับขี่ (ในแง่ของการเผชิญหน้า ความตื่นเต้น ความ ตกใจ ความเหนื่อยล้า เป็นต้น) และ 6) ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรมโปรแกรม DRI พบว่า ผู้ขับ รถบรรทุกที่เข้ารับการอบรมโดยภาพรวมมีความพึงพอใจต่อโปรแกรมนี้ในระดับดีมาก โดยปัจจัยด้าน เพศ อายุงาน และ ประสบการณ์ในการขับรถบรรทุกไม่มีผลต่อค่าระดับความพึงพอใจ ในขณะที่อายุและระดับการศึกษามีผลต่อความพึงพอใจใน การเข้าอบรมจากโปรแกรมดังกล่าว